ทั่วไป
สำหรับ กล้องวงจรปิด เลนส์ ถือเป็นชิ้นส่วนสำคัญของกล้องวงจรปิด ถ้าเราเลือกถูกต้องก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่ง
ในอดีตได้มีการสร้างกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ด้วยตัวรับภาพหลายขนาด ตั้งแต่ขนาด 1 นิ้ว 2/3 นิ้ว และ 1/2 นิ้ว ต่อมามีการพัฒนาจากหลอดวิดิคอนเป็นแผ่นรับภาพ CCD ซึ่งมีหลายขนาดเช่นกัน โดยเริ่มจากขนาด 2/3 นิ้ว 1/2 นิ้ว 1/3 นิ้ว และ 1/4 นิ้ว การสร้างเลนส์จึงมีหลายขนาดเพื่อให้มีขนาดที่พอดีกับตัวรับภาพ ดังนั้นการเลือกใช้เลนส์ควรจะให้มีขนาดพอดีหรือเท่ากับขนาดของตัวรับภาพ แต่ว่าเลนส์ที่ใช้กับตัวรับภาพที่มีขนาดใหญ่กว่า สามารถนำมาใช้กับตัวรับภาพที่มีขนาดเล็กกว่าได้ เช่น เลนส์สำหรับตัวรับภาพขนาด 2/3 นิ้ว สามารถนำมาใช้กับตัวรับภาพ ขนาด 1/2 นิ้วได้ แต่ในทางกลับกัน ไม่สามารถนำเลนส์ที่ใช้กับตัวรับภาพที่เล็กกว่า มาใช้กับตัวรับภาพที่มีขนาดใหญ่กว่าได้ข้อต่อเลนส์จะมีข้อต่อที่ใช้กับกล้องวงจรปิดอยู่ 2 แบบคือ
ดังนั้นการเลือกใช้เลนส์ควรเลือกให้ถูก กล้องที่มีข้อต่อแบบ C-Mount ก็ต้องใช้เลนส์ที่มีข้อต่อแบบ C-Mount ส่วนกล้องที่มีข้อต่อแบบ CS-Mountก็ต้องใช้เลนส์ที่มีข้อต่อแบบ CS-Mount แต่ ณ ปัจจุบัน เลนส์ที่มีข้อต่อแบบ C-Mount สามารถนำมาใช้กับกล้องที่มีข้อต่อแบบ CS-Mount ได้ โดยการใช้วงแหวนข้อต่อ(Adapter Ring) ต่อกลางระหว่างเลนส์กับกล้อง
เป็นเลนส์ที่มีระยะตายตัว ไม่สามารถปรับระยะและโฟกัสของภาพได้
Board Lens เป็น fix lens ชนิดหนึ่งใช้กับ กล้องวงจรปิดชนิดโดมหรือกล้องทรงกระบอก
CS Mount Lens เป็น fix lens ชนิดหนึ่งใช้กับ กล้องวงจรปิดมาตรฐาน
เป็นเลนส์ที่ปรับระยะและโฟกัสของภาพได้ ใช้เรียกกับกล้องวงจรปิดแบบมาตรฐาน สามารถปรับการรับแสงได้อัตโนมัติ สามารถปรับระยะเลนส์ได้ตามขนาดที่กำหนดของเลนส์
เป็นเลนส์ที่ปรับระยะและโฟกัสของภาพได้ โดยปกติทั่วไป จะสามารถปรับได้ภายนอกของตัวกล้อง ต่างกันเพียงตำแหน่งในการปรับเท่านั้นขนาดของเลนส์ต่างๆ
เช่น เลนส์ 4 mm. คือระยะห่างจากเลนส์โฟกัส ห่างกับ Sensor 4 mm.
เลนส์ของกล้องวงจรปิดโดยทั่วไปมีส่วนที่ทำหน้าที่สำคัญอยู่ 2 ส่วน คือ
มีส่วนในการกำหนดลักษณะและรูปแบบของภาพที่จะไปปรากฏอยู่บน Monitor สามารถแบ่งประเภทของเลนส์ตามคุณสมบัติในส่วนนี้ออกได้เป็น 2 แบบ คือ
1. Manual – แบบปรับเองด้วยมือ
2. Auto – แบบปรับอัตโนมัติ
หมายเหตุ :
เลนส์ซูม (Zoom Lens) ถือเป็นเลนส์ชนิดหนึ่งในกลุ่มเลนส์แบบ Variable Focal Length(ปรับความยาวระยะโฟกัสได้) โดยที่ภาพที่ได้จากเลนส์ชนิดนี้ยังคงมีความคมชัดอยู่เสมอในขณะที่มีการปรับเปลี่ยนความยาวระยะโฟกัส แต่ยังมีเลนส์อีกชนิดหนึ่งที่
เรียกว่า Varifocal Lens ซึ่งก็ถือเป็นเลนส์อีกชนิดหนึ่งในกลุ่มเลนส์แบบ Variable Focal Length(ปรับความยาวระยะโฟกัสได้) แต่ต่างจากเลนส์ซูม (Zoom Lens) ตรงที่เลนส์ประเภทนี้จะสูญเสียความคมชัดไปในขณะที่มีการปรับเปลี่ยนความยาวระยะโฟกัส ทำให้ต้องมีการปรับความคมชัดของภาพอีกครั้งหลังจากทำการปรับความยาวโฟกัสเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เลนส์ชนิดนี้โดยมากจะมีสายสำหรับต่อกับกล้องโดยจะปล่อยปลายสายไว้ (ไม่มีปลั๊ก 4 ขา )ทั้งนี้การจะเลือกใช้เลนส์ Auto Iris แบบใด จะต้องทราบก่อนว่าจะนำไปใช้งานกับกล้องที่จ่ายไฟฟ้าให้กับเลนส์แบบใด โดยศึกษาจากคู่มือของกล้อง เพราะว่าถ้าใช้เลนส์ผิดประเภทกับการจ่ายไฟของกล้อง เลนส์จะไม่ทำงาน หรืออาจจะเสียหายได้ เพราะว่าแรงเคลื่อนไฟฟ้า (Voltage) ที่กล้องจ่ายให้กับเลนส์ทั้งสองแบบ มีความแตกต่างกันมาก และถ้าใช้เลนส์ผิดชนิดก็จะไม่มีภาพ เพราะว่าเลนส์ไม่เปิดรับแสง สำหรับเลนส์แบบ Auto Iris นั้นเหมาะที่จะนำไปใช้กับกล้องที่ติดตั้งภายนอกอาคาร (Outdoor) เพราะปริมาณแสงที่อยู่ภายนอกอาคารจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอตลอดทั้งวันซึ่ง Auto Iris จะทำการปรับปริมาณการรับแสงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเพื่อให้ได้คุณภาพของภาพออกมาดีที่สุด
Android iOS